วันที่ออกอากาศ: 17 มิถุนายน 2555
วิทยากร: ดินาร์ บุญธรรม
ผู้ดำเนินรายการ: วราภรณ์ จิวชัยศักดิ์
แม่น้ำป่าสัก ถือเป็นหนึ่งในแม่น้ำประวัติศาสตร์สำคัญ 3 สายที่ไหลผ่านกรุงศรีอยุธยานอกจากแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำเจ้าพระยา
ลำน้ำป่าสักเมื่อครั้งอดีตเป็นเส้นทางที่พระเจ้าแผ่นดินใช้เสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระพุทธบาทที่แขวงเมืองสระบุรี ซึ่งได้รับการสถาปนาให้เป็นศาสนสถานสำคัญมาตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมในสมัยอยุธยา จนกลายเป็นพระราชประเพณีประจำปีของพระเจ้าแผ่นดินทุกรัชกาลสืบมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
นอกจากนี้ แม่น้ำป่าสักเป็นเส้นทางคมนาคมที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณจึงมีโบราณสถานและชุมชนของชาวบ้านกระจัดกระจายตลอดเส้นทาง ซึ่งถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
เนื่องจากการล่องแม่น้ำป่าสักยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ผู้สนใจเดินทางเส้นทางนี้จำเป็นต้องสำรองเช่าเรือล่วงหน้า โดยสามารถติดต่อเรือเช่าได้ที่ท่าเรือป้อมเพชรหรือท่าเรือวัดสุวรรณาราม การเช่าเรือมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงสักเล็กน้อย เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลทำให้ต้องใช้เวลาเดินทางนาน
หากต้องการเดินทางถึงอำเภอท่าเรือ ซึ่งเคยเป็นจุดจอดเรือสุดท้ายของพระมหากษัตริย์สมัยอดีตที่แวะพักก่อนเดินทางทางบกไปยังพระพุทธบาท จะต้องใช้ระยะเวลาเดินทางราว 12-14 ชั่วโมง ดังนั้น ควรออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด
สำหรับเส้นทางที่แนะนำนั้น ให้ออกเดินทางจากท่าเรือไปยังลำคูขื่อหน้า ซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ซึ่งอยู่บริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมืองอยุธยา กล่าวกันว่าบริเวณนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญและเป็นจุดที่กองทัพพม่าใช้โจมตีอยุธยาได้สำเร็จในสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 โดยมีสถานที่สำคัญ คือ พระราชวังจันทรเกษม หรือวังหน้าซึ่งเป็นที่ประทับของมหาอุปราช
จากนั้นล่องเรือต่อไปจะพบร่องน้ำโบราณ ซึ่งอดีตคือแม่น้ำหันตราหรือแม่น้ำป่าสักสายเดิมที่เป็นคูเมืองของเมืองอโยธยาศรีรามเทพนคร เมืองอยุธยาโบราณก่อนที่พระรามาธิบดีจะมาการสร้างพระนครศรีอยุธยา
ขอแนะนำให้จัดเตรียมข้าวของใส่บาตรไว้ด้วยเนื่องจากในช่วงเช้าจะมีพระสงฆ์พายเรือมาบิณฑบาตตามแม่น้ำ อันเป็นวิถีชีวิตของชุมชนแถบนี้มาตั้งแต่โบราณ ระหว่างล่องเรือจะพบว่าสองฝั่งของแม่น้ำเป็นเทือกสวนไร่นาของชาวบ้าน ซึ่งสามารถพบเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวบ้านไปได้ตลอดเส้นทาง
เมื่อล่องเรือจนถึงเขตอำเภอนครหลวงจะพบกับปราสาทนครหลวง ซึ่งเป็นที่ประทับพักผ่อนพระอิริยาบถของพระมหากษัตริย์ในการเสด็จนมัสการพระพุทธบาท สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง และบริเวณใกล้เคียงกันมีวัดใหม่ประชุมพลซึ่งสามารถเข้าไปศึกษาสถาปัตยกรรมในสมัยประเจ้าปราสาททอง คือ เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง และพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิราชองค์ใหญ่ที่เป็นพระประธาน รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังที่มีลวดลายสวยงามมาก
เมื่อแวะชมวัดใหม่ประชุมพลเสร็จแล้วสามารถแวะรับประทานอาหารแถวนี้ ซึ่งมีก๋วยเตี๋ยวเรือและเรือกาแฟผ่านมาบริการ หรืออาจจะเตรียมอาหารมารับประทานบนเรือ
จากนั้นให้ล่องเรือต่อไปยังหมู่บ้านอรัญญิก ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการตีมีด ถือเป็นภูมิปัญญาไทยอีกอย่างหนึ่ง ต่อจากนั้นจะผ่านวัดวาอารามตลอด 2 ฝั่งซึ่งสามารถแวะเยี่ยมชมได้ จนกระทั่งไปถึงท่าเจ้าสนุก เขตอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดกับอำเภอเสาไห้จังหวัดสระบุรี
หากพ้นจากอำเภอท่าเรือแล้วจะไม่สามารถเดินทางโดยทางเรือเพื่อไปนมัสการพระพุทธบาทต่อไปได้ เนื่องจากจะมีเขื่อนพระราม 6 ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อใช้เป็นเขื่อนชลประทานสำหรับบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำป่าสัก
บริเวณนี้มีตลาดขนาดใหญ่ให้แวะเลือกซื้อสินค้าก่อนเดินทางกลับมายังท่าเรือวัดพนัญเชิง โดยจะถึงท่าเรือราว 1-2 ทุ่ม แต่หากไม่ต้องการเดินทางกลับทางเรือสามารถนัดรถมารับที่ตลาดอำเภอท่าเรือนี้ก็ทำได้