ชาวไทยมุสลิมกับความสุขใต้ร่มพระบารมี

ดลยา เทียนทอง

 

สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย       

 

 

นับแต่ประวัติศาสตร์ มุสลิมหลากหลายชาติพันธุ์ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกและธรรมราชาผู้ปกครองอาณาประชาราษฏ์ทุกเชื้อชาติและศาสนา ให้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยอย่างเสรี ปราศจากการถูกกีดกันหรือกดขี่ข่มเหงใดๆ ทั้งยังสามารถเผยแพร่ศาสนา และได้รับการส่งเสริมดูแลให้ประกอบสัมมาอาชีพสุจริตได้ตามความเหมาะสม ไม่เพียงเท่านั้น มุสลิมบางส่วนยังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ถวายงานใกล้ชิด หรือมีบทบาทหน้าที่ในกิจการงานสำคัญต่างๆ ของบ้านเมืองด้วย และจวบจนถึงปัจจุบัน ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ยังทรงธำรงไว้ซึ่งการเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก และสถานะความเป็นธรรมราชาผู้ประเสริฐสุดอย่างสมบูรณ์แบบ โดยตลอดระยะเวลากว่า 65 ปีในใต้ร่มพระบารมี มุสลิมในแผ่นดินไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไทยมุสลิมต่าง มีความปิติภาคภูมิใจและน้อมสำนึกในพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการส่งเสริมศาสนาอิสลามที่มีมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพระราชกรณียกิจนานัปการในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยาก และอำนวยประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตด้านต่างๆ ของชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นห่างไกล พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ปรากฏนี้ได้นำพาความสุขมาสู่ชาวไทยมุสลิมอย่างครอบคลุมทั้งทางกายและใจ ซึ่งนับเป็นความสุขที่สมบูรณ์โดยแท้

 

 

(เสนอในการประชุมวิชาการระดับชาติ "วิถีแห่งความสุขชุมชน" ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน 2558 ณ โรงแรมอมรินทร์ลากูน จังหวัดพิษณุโลก  จัดโดย โครงการวิวัฒน์ไทยศึกษานานาชาติเพื่อการพัฒนาสังคมไทย (ENITS) สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะมนุษยศาสตร์  มหาวิทยาลัยนเรศวร)