ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล
สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร
บทความนี้ เป็นการศึกษาถึงพลวัตทางสังคมของครอบครัวช่างทอผ้าในพื้นที่มรดกโลก ศึกษาเปรียบเทียบประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 2 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาพลวัตทางสังคมของครอบครัวช่างทอผ้าในพื้นที่ มรดกโลก 2) เพื่อเปรียบเทียบพลวัตทางสังคมของครอบครัวกรณีศึกษาในพื้นที่มรดกโลกของเมืองศรีสัชนาลัยในประเทศไทยและเมืองหลวงพระบางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ผลการศึกษาพบว่า ลักษณะเด่นของครอบครัวในพื้นที่มรดกโลกศรีสัชนาลัย คือ มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการผลิตเพื่อใช้เป็นการผลิตเพื่อขาย และปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่แสดงความเป็นมรดกโลกไปเป็นการผลิตเพื่อประโยชน์ใช้สอย โดยเน้นตลาดภายนอกชุมชน และเกิดการพัฒนาความสัมพันธ์แบบเครือญาติไปสู่ความสัมพันธ์ในรูปแบบนายจ้างกับลูกจ้าง และเป็นเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบอาชีพ ซึ่งมีรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ภายในกลุ่มอาชีพ
ในขณะที่ ลักษณะเด่นของครอบครัวในพื้นที่มรดกโลกหลวงพระบาง คือ ลักษณะการผลิตเป็นการผลิตเพื่อขายภายในชุมชนเป็นหลัก และเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นสินค้าของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว โดยลักษณะความสัมพันธ์เป็นแบบเครือญาติ และมีรูปแบบการถ่ายทอดความรู้ภายในกลุ่มครอบครัวและเครือญาติ
พลวัตทางสังคมของครอบครัวในพื้นที่มรดกโลกศรีสัชนาลัยและหลวงพระบางมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างครอบครัว อันได้แก่ รูปแบบครอบครัว ที่อยู่อาศัยหลังแต่งงาน และโครงสร้างอำนาจในครอบครัว แต่มีประเด็นความแตกต่างของทั้งสองพื้นที่ คือ นโยบายของรัฐในประเทศไทยที่มีต่อพื้นที่มรดกโลกในช่วงเวลาต่างๆ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในทุกระดับตั้งแต่ระดับปัจเจกชนจนถึงความสัมพันธ์ในกลุ่มทางสังคม ในขณะที่ นโยบายรัฐของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่มีต่อพื้นที่มรดกโลกในช่วงเวลาต่างๆ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในระดับปัจเจกชนในเรื่องการยอมรับสถานภาพที่ได้มาด้วยความสามารถเท่านั้น
(เสนอในการประชุมวิชาการระดับชาติ "ผ้าทอในวิถีชีวิตไทย-ไท" ระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จังหวัดขอนแก่น จัดโดย โครงการวิวัฒน์ไทยศึกษานานาชาติเพื่อการพัฒนาสังคมไทย (ENITS) สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และสถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม)