รายอบือซา มีมเหสีชื่อ เม๊าะซาตือมอ ครองเมืองกำปงบาราโย๊ะ อยู่มาวันหนึ่งมเหสีทรงทรงตั้งครรภ์ และอยากจะเสวยกวางเผือก นางอ้อนวอนให้สวามีไปล่ากวางเผือก โดยใช้เวลาเท่ากับระยะทรงครรภ์ของพระมะเหสีจนกระทั่งครบกำหนดคลอดก็ยังหากวางเผือกไม่ได้ ด้วยความเป็นห่วงมเหสี พระองค์จึงรีบกลับพระราชวัง ครั้นเสด็จเข้าในพระราชวังด้วยความตื่นเต้น ได้สอบถามเหล่าเสนาอำมาตย์ถึงมเหสีและลูกน้อย แต่ไม่มีผู้ใดกล้ากราบทูล รายอบือซาเกิดความสงสัยจึงรีบเสด็จเข้าไปในห้องบรรทมของมเหสี เมื่อทราบความจริงว่ามเหสีคลอดลูกออกมาเป็นหอยโข่ง จึงคิดว่ามเหสีมีชู้กับหอยโข่งจึงมีลูกออกมาเช่นนั้น พระองค์โกรธมากและได้เนรเทศมเหสีและลูกออกจากเมือง นางได้พาลูกหอยโข่งเดินทางเร่ร่อนไปในป่าและได้อาศัยอยู่กับตายาย ต่อมาเม๊าะซาตือมอรู้ความจริงว่าลูกซึ่งเป็นหอยโข่งนั้น แท้จริงเป็นมนุษย์ที่แอบแฝงอยู่ในหอยโข่ง นางจึงหาโอกาสที่จะทำลายหอยโข่ง เพื่อนางจะได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกน้อยเหมือนแม่ลูกทั่วไป
ต่อมารายอบือซาระลึกถึงมเหสีและทรงสำนึกถึงความผิดที่ไล่มเหสีกับลูกออกจากเมือง พระองค์จึงสั่งให้ทหารไปตามหามเหสีและลูกน้อยกลับเข้าเมือง เมื่อทหารไปรับมเหสีกับลูกน้อยกลับเข้าเมือง รายอบือซาได้จัดงานเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริก และได้ทรงพระราชทานนามพระโอรสว่า รายอฆอแน
ข้อคิด นิทานเรื่องรายอฆอแน สะท้อนการมีสำนึกในการกระทำที่ไม่พิจารณาถึงเหตุผล คือรายอบือซาโกรธ เพราะคิดว่ามเหสีมีชู้ ที่คลอดโอรสเป็นหอย และได้ขับไล่มเหสีและลูกออกจากเมือง ต่อมาเมื่อสำนึกได้จึงได้สั่งให้ทหารไปรับมเหสีกับลูกกลับเมือง