เพลงมลายูท้องถิ่น หรือที่รู้จักกันในชื่อเพลงดังดุต เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมในแถบเมืองมลายู ตั้งแต่สามจังหวัดชายแดนใต้ของไทย มาเลเซีย รวมไปถึงอินโดนีเซีย แนวเพลงชนิดนี้ได้รับอิทธิพลจากเพลงอินเดียกับเพลงอาหรับ โดยเฉพาะในเรื่องของดนตรีที่ใช้จะมีกลิ่นอายแบบอินเดียกับอาหรับผสมอยู่ หากแต่เนื้อหาของเพลงจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรักเหมือนเพลงสตริงของไทยชอบทำกัน แต่เพลงดังดุตจะมีเนื้องเพลงที่พูดถึงวิธีชีวิตของคนมลายู เรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่น่าสนใจคือเพลงลักษณะนี้ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ไม่ถูกต้องในศาสนา กลับมีการแทรกเรื่องศาสนาอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้ถูกจริตคนมลายูอยู่ไม่น้อย ตัวอย่างนักร้องดังดุตของจังหวัดยะลา อาทิ
1. มะโร๊ะห์ ปาตารายอ
แบมะโร๊ะห์ หรือมะโร๊ะห์ ปาแตรายอ เป็นคนบ้านปาแตรายอ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเจ้าของเพลงดังดุตชื่อดังหลายเพลง เช่น เพลงปูโจ๊ะปากู (ผักกูด) เพลงออแรกายอ (คนรวย) เพลงยูวาอีแก (ขายปลา) เพลงบูรงงอเบาะยาโม (นกกรงหัวจุก) เพลงดารอกอบูแย (โสดหรือหม้าย) เพลงนีเกาะห์ (แต่งงาน) เพลงอาเนาะซีนา (ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่ได้แต่งงานกัน) เพลงมาละห์ซือมาแล (ขี้เกียจละหมาด) เป็นต้น

จากชื่อเพลงจะเห็นว่าเพลงของมะโร๊ะ ปาแตรายอ จะเน้นไปที่การบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตประจำวันของคนมลายู อาชีพ งานอดิเรก อาหาร แม้กระทั่งการสั่งสอนในด้านศาสนา ในเพลงดังอย่างเพลงปูโจ๊ะปากูมีเนื้อเพลงท่อนหนึ่งร้องว่า “กาบู ปูโจ๊ะปาตู ซาโยกาแจ ปาแง อีแกปูยู ตูโม๊ะ ซามา บลาแจ จือลอ ปูโจ๊ะ ลาบู บูวะ อูแล ตาเนาะ นาซิ บือระ อูแซ โอ้โห อีแกกือริง อาเนาะตาแม” แปลเป็นไทยว่า “ยำผักกูด ซุปถั่วงอก ปลาสลิดย่าง น้ำพริกกะปิ ใบฟักทองลวกเอามาทำผัก หุงข้าวด้วยข้าวเก่า โอ้โห ปลาแห้งต่าง ๆ” เนื้อเพลงท่อนนี้สะท้อนให้เห็นถึงอาหารพื้นบ้านของคนมลายูที่กินง่าย ไม่ยุ่งยาก โดยที่ท่อนถัดไปมะโร๊ะได้เล่าถึงสาเหตุของการที่คนมลายูกินง่ายก็เพราะมีลูกเยอะ อายุติด ๆ กัน พ่อแม่มีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังมีท่อนที่ตั้งคำถามกับความเชื่อของสังคมที่บอกว่าการมีลูกเยอะ จะทำให้โชคดี มะโร๊ะปิดท้ายด้วยการกระแนะกะแหนว่าจะโชคดีได้อย่างไรในเมื่อเห็นอยู่ว่าการมีลูกเยอะเกินไปมันไม่สามารถส่งเสียเลี้ยงดูได้อย่างเต็มที่
2. เลาะห์ กาปงนิบง
เลาะห์ กาปงนิบง เป็นคนบ้านกำปงนิบง ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าของบทเพลงดังดุตชื่อดัง เช่น เพลงลาวาซูโงะห์แดมอ (สวยจริง ๆ เลยเธอ) เพลงกือดายาลา (เมืองยะลา) เพลงเต๊าะดืองาลาแฆ (ห้ามแล้วไม่ฟัง) เพลงดาวกือทอง (ใบกระท่อม) เป็นต้น

เพลงของเลาะห์ กาปงนิบง จะมีเนื้อหาเหมือนเพลงดังดุตทั่วไปที่ครอบคลุมเรื่องราวในชีวิตประจำวัน รวมถึงมีการเรื่องศาสนาด้วยเล็กน้อย เพลงลาวาซูโงะห์แดมอ เล่าถึงการแอบชอบผู้หญิงหน้าตาคนดีคนหนึ่ง แต่ไม่กล้าถามตรง ๆ เพราะกลัวจะมีเจ้าของแล้ว ทำได้เพียงแต่แอบมองอยู่ไกล ๆ ส่วนเพลงเต๊าะดืองาลาแฆ เล่าถึงคู่รักที่ไม่ฟังคำเตือนของผู้ใหญ่ หนีไปแต่งงานที่สุไหงโกลกจนสุดท้ายชีวิตไม่มีความสุข
เลาะห์ กาปงนิบง ยังแต่งเพลงกือดายาลา เล่าเกี่ยวกับเมืองยะลาอีกมุมหนึ่ง คือเมืองยะลาในฐานะเป็นเมืองแห่งแสง สี และเสียงสำหรับผู้ชายชนบท การเข้าเมืองยะลาแต่ละครั้งต้องเสียเงินตลอด เพราะหลงกลแม่หม้ายในเมืองยะลา